ชื่อโครงการ : (ภาษาไทย) ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างผักผลไม้ออร์แกนิกเพื่อสุขภาพ
(อังกฤษ) Organic washing product of vegetables and fruits for health
หน่วยงาน : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
หน่วยงานโครงการ : หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.)
หน่วยงานร่วมวิจัย : บริษัท ศูนย์การแพทย์เอฟเอ็มซี
ปีงบประมาณที่ได้รับทุน : ปีงบประมาณ 2567
จำนวนงบประมาณที่ใช้ : 1,752,000.00
ระยะเวลาดำเนินการ : 1 ปี (16 กันยายน พ.ศ.2567- 15 กันยายน พ.ศ.2568)

ที่มาของโครงการ/ที่มาของปัญหา
ปัจจุบันโรคติดเชื้อปรสิต ยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญของคนทั่วโลก พบว่าคนมากกว่าพันล้านคนมีการติดเชื้ออย่างน้อยหนึ่งชนิด อาทิ เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิปากขอ พยาธิใบไม้ตับ พยาธิใบไม้เลือด มาลาเรีย (WHO 2020) จากรายงานวิจัย พบว่ามีผู้ป่วยโรคปรสิตที่ติดต่อจากอาหารสูงถึง 79,000,000 คน มีผู้เสียชีวิตแต่ละปีอยู่ระหว่าง 48,017-83,616 ราย โดยปรสิตที่สำคัญคือ โปรโตซัว (23,200,000 ราย) พยาธิไส้เดือน (12,300,000 ราย) พยาธิท็อกโซพลาสมา (10,300,000 ราย) พยาธิตืดและ cysticercosis (2,780,000 ราย) (Torgerson, et al.,2015) ในปี 2558 มีรายงานข้อมูลประมาณการณ์การติดเชื้อหนอนพยาธิในกลุ่มประเทศอาเซียน โดย Hotez PJ และคณะ ได้ทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับโรคเขตร้อนที่ถูกละเลยและตีพิมพ์ในวารสาร PLoS Negl Trop Dis ฉบับที่ 9(4) โดยพบว่าในกลุ่มสมาชิกประเทศอาเซียนมีการติดเชื้อโรคหนอนพยาธิกว่า 100 ล้านคน โดยพยาธิไส้เดือน เป็นโรคที่มีการรายงานการติดเชื้อสูงที่สุด คิดเป็น 21% รองลงมาคือ พยาธิแส้ม้า 19%, พยาธิปากขอ 13% ตามลำดับ โดยในประเทศไทยมีการคาดการณ์ปัญหาโรคปรสิต ดังนี้ พยาธิใบไม้ตับ (5,100,000 ราย) พยาธิปากขอ (2,500,000 ราย) พยาธิใบไม้ลําไส้ (2,300,000 ราย) พยาธิตืด (600,000ราย) พยาธิไส้เดือน (200,000 ราย) พยาธิแส้ม้า (100,000 ราย) พยาธิเท้าช้าง (73,495ราย) พยาธิหอยโข่ง (50,000 ราย) และมาลาเรีย (22,189 ราย) (Hotes et al., 2015; Kaewpitoon et al., 2015; Sripa et al., 2012) จากการสํารวจพฤติกรรมเสี่ยงในปัจจุบันของคนไทยจำนวน 16,000 รายทั่วประเทศ พบว่ากลุ่มตัวอย่าง 11.99% ยังนิยมบริโภคปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดขาวแบบดิบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาร้า ปลาส้ม ลาบปลา ก้อยปลา ขณะเดียวกันข้อมูลความชุกหนอนพยาธิในคนไทยทั่วประเทศ พบว่าอัตราความชุกของโรคหนอนพยาธิอยู่ที่ 9.79% คิดเป็น 6,363,500 รายที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อหนอนพยาธิในประเทศไทย (กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 2562) ตัวสำคัญคือ พยาธิปากขอและพยาธิใบไม้ตับ โดยการรับประทานผักสดเป็นสาเหตุหนึ่งของการรติดเชื้อปรสิตผ่านทางอาหาร เนื่องจากผักสดอาจมีการปนเปื้อนปรสิตระยะติดต่อที่มีอยู่ในดินหรือน้ำที่ใช้รดผัก ปุ๋ยที่มาจากอุจจาระของคนหรือมูลสัตว์
ในสังคมไทยปัจจุบันประชาชนเริ่มให้ความสนใจดูแลสุขภาพร่างกายมากขึ้น การหันมาเลือกรับประทานผักก็เพิ่มตามขึ้น แม้ว่าผักหลายชนิดจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามการรับประทานผักสด โดยไม่ผ่านการต้มหรือกรรมวิธีต่าง ๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการติดเชื้อหนอนพยาธิ เนื่องจากผักเหล่านั้นอาจปนเปื้อนไข่พยาธิระยะติดต่อที่อยู่ในดินหรือน้ำ และการนําอุจจาระของสัตว์หรือมนุษย์มาใช้เป็นปุ๋ย (Bogitsh et al., 2013) ปัจจุบันได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดผักผลไม้ โดยเฉพาะรูปแบบสําเร็จรูปพร้อมใช้งานและมีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นสำคัญ โดยมีคุณสมบัติลดแรงตึงผิว เพื่อช่วยชําระล้างให้สิ่งสกปรก สารเคมี แบคทีเรีย เชื้อรา ตลอดจนไข่พยาธิหลุดออกจากผิวผักและผลไม้ ไม่ตกค้างในผักผลไม้และสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดผักและผลไม้ให้เป็นเชิงผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและออร์แกนิก
มะละกอเป็นผลไม้ที่ถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังมีสรรพคุณทางด้านยาอีกด้วย ตัวอย่างสารที่พบจากการศึกษาในมะละกอ เช่น Papain enzyme, Saponin, Proanthocyanidin, Flavonol, Tannin, Isorhamnetin และ Ferulic acid เป็นต้น จากรายงานการทดสอบสารสกัดจากเมล็ดมะละกอกับหนูที่ติดเชื้อพยาธิตืดแคระ หลังการทดสอบพบว่าจำนวนการติดพยาธิลดลงและเกิดการเปลี่ยนแปลงผิวของพยาธิตืดแคระในระยะตัวเต็มวัย หลังจากตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกนนิง (Omayma et al., 2014) และมีการทดสอบของสารสกัดเมล็ดมะละกอที่ความเข้มข้นต่าง ๆ กับไข่พยาธิตัวกลมในลําไส้ที่ได้จากมูลหนู พบว่า เกิดการยับยั้งในการพัฒนาของไข่ (Embryonated eggs) ลดการเปิดฝาของไข่ ลดการพัฒนาและการมีชีวิตรอดของพยาธิ เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (Wabo et al., 2011)
ดังนั้น คณะผู้วิจัยจึงสนใจนําองค์ความรู้ที่มีอยู่มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างผักที่มีส่วนผสมสารสกัดเมล็ดมะละกอและสารลอริลกลูโคไซด์จากมะพร้าว ต่อการกําจัดไข่และหนอนพยาธิจากผักผลไม้สดรวมทั้งจุลชีพต่าง ๆ เพื่อเป็นการต่อยอดให้เกิดผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างผักผลไม้กําจัดปรสิตหรือจุลชีพที่มีคุณภาพและปลอดภัยในอนาคต อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติสู่การควบคุมและป้องกันในการติดเชื้อโรคปรสิตหรือเชื้อจุลชีพต่อไป

ผลงานที่ได้/และการใช้ประโยชน์

  1. ด้านสังคม
    การสร้างผลิตภัณฑ์จากสารสกัดมะละกอและสารสกัดจากมะพร้าวต่อการกําจัดเชื้อปรสิตหรือจุลชีพที่ได้จากองค์ความรู้พื้นฐาน ได้แก่ การสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยี และการวิจัย นวัตกรรม เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ มุ่งเน้นการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อสะสมความรู้และการพัฒนาต่อยอดด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจาก เป็นการพัฒนาศักยภาพในการพึ่งตนเอง มีคุณค่าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สังคมได้ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการสร้างบัณฑิตระดับปริญญาโทและปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ สนับสนุนการพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่เทคโนโลยีชีวภาพ ทางด้านการแพทย์ ความเข้มแข็งของการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีสุขภาพ รวมถึงการผลิตนํ้ายาล้างผักออร์แกนิกต้านปรสิตหรือเชื้อจุลชีพต่าง ๆ และสร้างผลงานเพื่อเผยแพร่
  2. ด้านเศรษฐกิจ
    การนําผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร และระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อต่อยอด อุตสาหกรรมการเกษตรและสุขภาพลดการนําเข้าสมุนไพร และสามารถผลิตขึ้นได้เอง เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรและเน้นการนําผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม การเพิ่มประสิทธิภาพลดการสูญเสียของผลิตผลการเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพืชเศรษฐกิจรวมถึงมีการพัฒนาองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่(Modern agriculture)
  3. ด้านสิ่งแวดล้อม
    เป็นการนําองค์ความรู้มาผลิตนํ้ายาล้างผักที่ได้รับองค์ความรู้การวิจัยและนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมที่ดีขึ้นและจัดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบโลโก้และบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์
การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างผักจาก สารสกัดเมล็ดมะละกอผสมลอริลกลูโคไซด์ ส่งผลให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นทั้งด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ สารสกัดเมล็ดมะละกอมีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยยับยั้งเชื้อปรสิตและจุลินทรีย์ ขณะที่สารลอริลกลูโคไซด์ทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิวจากธรรมชาติที่สามารถชะล้างสิ่งสกปรก สารตกค้าง และไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมด้วยกรดมะนาวเพื่อควบคุมสภาวะกรด–ด่าง และโพแทสเซียมซอร์เบตที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความเสถียร ใช้งานได้สะดวก และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
การออกแบบโลโก้และบรรจุภัณฑ์มุ่งเน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ ทันสมัย และสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ โดยโลโก้ใช้โทนสีเขียวและฟ้าเพื่อสะท้อนถึงสุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สัญลักษณ์ที่ใช้เชื่อมโยงกับวัตถุดิบจากมะละกอ เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ส่วนบรรจุภัณฑ์เลือกใช้วัสดุที่สามารถป้องกันการเสื่อมสลายของสารออกฤทธิ์จากแสง เช่น ขวดพลาสติกใสหรือสีชา มีฉลากแสดงรายละเอียดที่ครบถ้วน ได้แก่ ส่วนประกอบ วิธีใช้ วันผลิต วันหมดอายุ รวมทั้ง QR code เพื่อการตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ เพิ่มมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและสามารถแข่งขันทางการตลาดได้
สูตรผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมีอัตราส่วนที่เหมาะสมต่อปริมาตร 1 ลิตร ประกอบด้วย

  • สารสกัดเมล็ดมะละกอ 50 มิลลิลิตร
  • สารลอริลกลูโคไซด์ 150 มิลลิลิตร
  • กรดมะนาว (Citric acid) 2.2 กรัม
  • โพแทสเซียมซอร์เบต (Potassium sorbate) 1 กรัม
  • น้ำกลั่นบริสุทธิ์ หรือน้ำ RO
    ขั้นตอนการเตรียมสูตรเริ่มจากการละลายกรดมะนาวและโพแทสเซียมซอร์เบตในน้ำกลั่นบริสุทธิ์ จากนั้นเติมสารลอริลกลูโคไซด์และสารสกัดเมล็ดมะละกอ กวนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน เติมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ ให้ครบตามปริมาตร 1,000 มิลลิลิตร และปรับค่า pH ให้มีค่าอยู่ในระหว่าง 6.0 – 10.5 ผลลัพธ์ที่ได้คือผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างผักที่มีความคงตัว มีฤทธิ์กำจัดจุลินทรีย์และปรสิตได้ดี พร้อมทั้งมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและการเก็บรักษาที่ยาวนาน

สูตรวิจัย ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างผักผลไม้ออร์แกนิกเพื่อสุขภาพ

  1. แนะนำผลิตภัณฑ์
    น้ำยาล้างผักผลไม้ออร์แกนิกเพื่อสุขภาพ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยของอาหารและสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์นี้ใช้ สารสกัดจากพืชธรรมชาติ 100% และเทคโนโลยีการผลิตที่ผ่านการควบคุมคุณภาพในระดับห้องปฏิบัติการ มุ่งเน้นการลดการปนเปื้อนจาก
    • สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
    • คราบไขมันและสิ่งสกปรก
    • จุลินทรีย์ก่อโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  2. จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
    • สารสกัดออร์แกนิกจากธรรมชาติ: ผ่านการคัดเลือกพืชที่มีฤทธิ์ในการทำความสะอาดและยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์
    • ความปลอดภัยสูง: ไม่มีสารเคมีสังเคราะห์ ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้าง
    • คงคุณค่าทางโภชนาการ: ไม่ทำลายวิตามินและแร่ธาตุที่มีอยู่ในผักผลไม้
    • มาตรฐานการผลิต: ผ่านการทดสอบตามแนวทางความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety Standards)
    • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: สารสกัดย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในแหล่งน้ำ
  3. ผลการวิจัยและการทดสอบ
    งานวิจัยสนับสนุนแสดงให้เห็นว่า สูตรน้ำยาล้างผักผลไม้ออร์แกนิกนี้สามารถ
     ลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้าง
     ลดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ ทั้งแบคทีเรียและพยาธิ ได้มากกว่า 90%
     ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ จากผลการทดสอบทางห้องปฏิบัติการ
     ไม่ส่งผลกระทบต่อรสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสของผักผลไม้
  4. วิธีใช้
  5. ผสมน้ำยาล้างผักผลไม้ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำสะอาด 1 ลิตร
  6. แช่ผักหรือผลไม้เป็นเวลา 5–10 นาที
  7. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 1–2 ครั้ง หรือจนกว่าฟองจะหมด ก่อนนำไปปรุงอาหารหรือรับประทาน
  8. กลุ่มเป้าหมาย
    • ครอบครัวที่ใส่ใจสุขภาพ
    • ผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรม
    • โรงเรียน โรงพยาบาล และหน่วยงานด้านโภชนาการ
    • ผู้บริโภคที่เลือกผลิตภัณฑ์ ปลอดภัย–ออร์แกนิก–ยั่งยืน
  9. มาตรฐานและความปลอดภัย (*ยังไม่ดำเนินการ)
    • ผลิตภัณฑ์ได้รับการพัฒนาและควบคุมตามแนวทางมาตรฐาน เช่น
    • GMP (Good Manufacturing Practice)
    • HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Points)
    • การรับรองความปลอดภัยจากการทดสอบทางจุลชีววิทยาและสารตกค้าง
  10. สรุป
    น้ำยาล้างผักผลไม้ออร์แกนิกเพื่อสุขภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสานความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และความใส่ใจต่อผู้บริโภค ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณและครอบครัวได้รับประทานผักผลไม้ที่ สะอาด ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน